ชีวิตต่อชีวิต
ท่านที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนคงจะนับวันถอยหลังแล้ว และในขณะที่ท่านกำลังนับวันถอยหลังนี้ ทราบไหมว่าด้วยวัย 60 ของท่านนั้น มีมือดีกำลังรณรงค์รักษาชีวิตสัตว์โลก เขาแอบเก็บตัวเลขจำนวนสัตว์ที่ท่านบริโภคไปแล้วออกมาเผยแพร่เป็นตัวเลขที่น่าตกใจทีเดียวเขาคำนวนแล้วทั้งสัตว์ตัวเล็ก ตัวใหญ่ และที่ยังไม่เป็นตัว ทั้ง 2 เท้า และ 4 เท้า และไม่มีเท้า ทั้งที่อยู่บนบกและในน้ำ และบนอากาศ มันถูกบริโภคไปดังนี้ ประเภทสัตว์ปีก นก เป็ด ไก่ ห่าน รวมประมาณ 2 หมื่นตัว ไข่ต่างๆ 6 หมื่นฟอง กุ้ง หอย ปู ปลา 1 แสน 2 หมื่นตัว สัตว์ใหญ่คือ หมู วัว ควาย ประมาณ 3 พันตัว รวมแล้วสัตว์ทั้งหลายต้องถวายชีวิตถึง 2 แสน 3 พันชีวิต เพื่อให้คนๆหนึ่งมีชีวิตอยู่มาได้ถึง 60 ปี
ถ้าจะพิจาณาด้วยใจเป็นธรรมแล้ว มันไม่ยุติธรรมเลยสำหรับสัตว์ผู้ไม่มีทางสู้เหล่านั้นเพราะมันย่อมรักชีวิตเช่นเดียวกับมนุษย์เรา แต่ก็ถูกมนุษย์แย้งว่า มนุษย์จำเป็นต้องได้โปรตีนจากสัตว์ แต่ปัจจึบันเราก็ค้นพบแล้วว่า เราสามารถหาโปรตีนจากถั่วได้ไม่น้อยกว่าสัตว์ เราหันมากินพืชผักและถั่วต่างๆแทนจึงนาสจะเป็นการดีต่อชีวิตสัตว์และดีต่อสุขภาพของมนุษย์เองด้วย เพราะจากการศึกษาแล้วพบว่าสัตว์ตัวใหญ่ๆ เช่น วัว ควายนั้น มีสัญชาติญาณรักตัวกลัวตายสูง เมื่อรู้ตัวว่าจะถูกนำไปฆ่า ร่างกายของมันจะหลั่งสารชนิดหนึ่งออกมาแทรกอยู่ตามกล้ามเนื้อ และสารชนิดนี้เมื่อคนกินเข้าไปมันจะเป็นตัวการก่อให้เกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคกะเพาะอาหาร โรคตับ โรคไต โรคปวดข้อ ปวดกรพดูก และอื่นๆ อีกหลายโรค
แม้จะรู้ถึงโทษแล้ว แต่เพราะเราท่านผู้กินเนื้อมาตลอดชีวิต อยู่ดีๆจะให้หยุดไปเด็ดขาดทันทีคงจะยาก เอาเป็นว่าค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆลดลงก็จะเป็นกุศลต่อสัตว์และเป็นผลดีต่อสุขภาพเราเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น